จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

บริการหนังสือสำรอง

บริการหนังสือสำรอง
         บริการหนังสือสำรอง    เป็นบริการเสริมของบริการยืมคืน  เน้นบริการครูผู้สอน  และเปิดโอกาสสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบรรณารักษ์กับผู้สอน
ปรัชญา
- ส่งเสริมการเรียนการสอน
- มีสารสนเทศสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการ
หนังสือสำรอง

  • ทรัพยากรสารสนเทศที่จำกัดระยะเวลาในการยืม  เช่น ยืมได้ 2 ชั่งโมงต่อคน  เมื่อหมดเวลาก็นำมาคืน  เพื่อให้ผู้อื่นได้ใช้ต่อไป
  • จัดให้บริการ  โดยมีบรรณารักษ์ให้บริการที่เคาเตอร์ยืมคืน
  • ส่วนใหญ่จะให้บริการภายในห้องสมุดเท่านั้น  ไม่สามารถยืมออกมานอกห้องสมุดได้
  • หากมีการอนุญาตให้ยืมนอกมานอกห้องสมุด  จะมีขั้นตอนการยืมปกติ  แต่ระยะเวลาในการยืมอาจจะแตกต่างออกไป  เช่นยืมได้ 3 วัน จากหนังสือปกติที่ยืมได้ 7 วัน
  • มีการจำกัดจำนวนเอกสารที่ให้ยืม
ทรัพยากรสารสนเทศที่สามารถให้ยืมได้

  • ทรัพยากรสารสนเทศในห้องสมุด
  • ทรัพยากรสารสนเทศส่วนบุคคล  เช่น ของบรรณารักษ์เอง  หรือ ของผู้สอน
  • ซีดี
  • บทความในวารสาร
  • ตัวอย่างแบบทดสอบ, ข้อสอบ, ความเรียง
         อาจจะเป็นฉบับอิเล็กทรอนิกส์ก็ได้  ห้องสมุดสามารถทำเป็น ภาพดิจิทัล,คอลเลกชั่นพิเศษ, รูปภาพจากวารสาร หรือเพาเวอร์พอยท์ได้  แต่ก็ต้องมีการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลไม่ให้ถูกคัดลอก  ซึ่งในการจัดทำนี้จะใช้เพื่อส่งเสริมการเรียนการสอนเท่านั้น
ความสำคัญของบริการหนังสือสำรอง

  • บทบาทของการส่งเสริมการเรียนการสอน  ให้นักศึกษาได้ใช้ในการเรียนทำให้ได้รับความรู้เพิ่มมากขึ้น
  • นักศึกษาสามารถเข้าถึงได้เท่าเทียมกัน  เพราะมีการกำหนดเวลาในการใช้ของแต่ละคนไว้อย่างแน่นอน
  • สร้างความสัมพันธ์ระหว่างบรรณารักษ์กับผู้สอน  ให้มีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น
  • แสดงถึงคุณภาพของการบริการ  เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ห้องสมุด
  • นิยมให้บริการในห้องสมุดในระดับอุดมศึกษา  เพราะจะมีนักศึกษาและนักวิจัยมาใช้บริการเยอะ
  • อาจมีบริการในห้องสมุดโรงเรียน
  • มีการปรับเปลี่ยนในแต่ละเทอม  เพื่อให้เหมาะสมกับผู้ใช้ในแต่ละเทอมที่มีการลงทะเบียนเรียน
ขั้นตอนการดำเนินการ
งานที่ปฏิบัติ
1. รับใบขอใช้บริการ
2. รับเอกสาร หรือ คัดทรัพยากรสารสนเทศ, จัดให้มีบริการยืม และตกลงระยะเวลาในการยืม
3. จัดทำสำเนา หรือ สแกน  ในข้อนี้บรรณารักษ์ต้องทราบเกี่ยวกับกฎหมายลิขสิทธิ์  ถ้าเอาสารสนเทศมาจากฐานข้อมูลจะทำให้ไม่ได้เพราะผิดกฎหมายลิขสิทธิ์อย่างแน่นอน
4. เข้าเล่ม  เพื่อให้แข็งแรงคงทน  ง่ายต่อการรักษา
5. จัดระเบียบเอกสาร เช่น จัดหมวดหมู่ ระบบที่ทำให้สามารถหยิบใช้ได้ง่าย  ซึ่งจะนิยมเรียงตามชื่อกระบวนวิชา, ผู้สอน, หรือกำหนดหมายเลข
การทำบัตรยืม

  • กำหนดระยะเวลา  ระเบียบในการให้ยืม
  • ให้บริการยืมคืน
  • จัดเก็บค่าปรับ
  • คืน  ย้ายเอกสารเก็บ
  • แก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
  • จัดเก็บสถิติ  เช่นมีการสำรวจประชากร  บุคลากร  เอกสาร  การบริการ  เครื่องให้บริการ
  • การดูแลรักษาเอกสาร
  • การรักษาความปลอดภัย
การขอใช้บริการ
ผู้ใช้สามารถเข้าไปในหน้าเว็บไซต์ของห้องสมุดที่ต้องการจะสมัครสมาชิก  แล้วทำตามที่ห้องสมุดได้กำหนดแจ้งไว้ในหน้านั้นได้
กรณีไม่มีในห้องสมุด
บรรณารักษ์ก็ต้องหามาให้บริการ  ซึ่งจะมีความเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดหา
การจัดเก็บ
- จัดเก็บตามหมายเลขกระบวนวิชา  ชื่อผู้สอน  มีการเรียงอีกครั้งตามชื่อเรื่อง  ชื่อผู้แต่ง
- บทความ, แบบทดสอบ   การจัดเก็บจะอยู่ในรูปของการจัดเก็บในแฟ้ม  และทำการติดบาร์โค้ดไว้สำหรับการยืมออก
- เอกสารที่มีการสแกน  ให้มีการจัดเก็บไว้บน OPAC และแจ้งแหล่งการจัดเก็บให้ผู้ใช้ทราบ  หรือมีการจัดทำรายชื่อแจ้งแยกไว้ให้สามารถถ่ายโอนได้ทันที
การจัดการเอกสาร

  •  การจัดการเอกสาร  ต้องทำการประทับตรา  เช่น "ใช้ภายในห้องสมุดเท่านั้น"  "ใช้ภายในห้องนี้เท่านั้น"
  • จัดทำบัตรยืม  และจัดทำคำแนะนำให้ผู้ใช้ทราบ
  • ใช้สีแตกต่างกันในกรณีที่มีระยะเวลาในการให้ยืมที่ต่างกัน
  • ใส่ชื่อผู้สอนกระบวนวิชา  เพื่อง่ายต่อนักศึกษาและบรรณารักษ์ในการค้นหา
ระยะเวลาในการยืม

  • ยืมในห้องสมุด  ทั่วไปจะให้ยืมได้ 2 ชั่วโมงต่อคน  และจะไม่มีการให้ยืมต่อ
  • ยืมออกนอกห้องสมุดจะยืมได้ประมาณ  1-2 วัน หรือเฉพาะนอกเวลาทำการ  และนำมาคืนในเวลาที่กำหนด  และจะมีค่าปรับที่สูงในกรณีที่มีการส่งช้า  จะมีการคิดค่าปรับเป็นชั่วโมง
  • โดยทั่วๆไปแล้วระยะเวลาในการยืมต้องสั้นกว่าปกติ  เพื่อให้สามารถหมุนเวียนในกลุ่มผู้ใช้ได้อย่างทั่วถึง
  • มีการคิดค่าปรับในการส่งช้า  เช่น .50c ,$1-$3 (ในของต่างประเทศ)
การเข้าถึง

  • โปรแกรมห้องสมุดจะมีงานหนังสือสำรองให้  
  • รายการที่มีการสำรองจะมีแจ้งการค้นหาให้ใน OPAC
  • มีการทำรายการแจ้งแยกเพื่อให้สามารถค้นหาได้ในรูปของสิ่งพิมพ์
  • มีการแจ้งผู้สอนถึงการจัดเก็บ  วิธีการจัดเก็บ   เพื่อผู้สอนจะได้แจ้งให้นักศึกษาทราบ  และห้องสมุดจะมีการปรับเปลี่ยนหน้าเว็บไซต์อยู่เสมอ  การเปลี่ยนหน้าเว็บไซต์แต่ละครั้งบรรณารักษ์ต้องตรวจสอบทุกครั้งว่ายังคงมีการบริการอยู่อย่างเดิมหรือไม่  และตรวจสอบการสะกดคำว่าผิดหรือไม่
ระบบการจอง
การจองสารสนเทศสามารถทำได้บนหน้าเว็บไซต์ของแต่ละห้องสมุด  ที่มีการจัดทำบริการให้ยืม  หรือจองเอกสารได้
ความสัมพันธ์กับผู้สอน

  • บรรณารักษ์ต้องพยายามติดต่อสื่อสารกับผู้สอนอย่างสม่ำเสมอ
  • ผู้สอนมักจะลืมว่าได้มอบเอกสารให้ห้องสมุด  เพื่อให้นักศึกษาได้ใช้  บรรณารักษ์ต้องดำเนินการแจ้งให้ผู้สอนทราบ  ว่าจะมารับกลับ  หรือจะให้เก็บไว้เพื่อใช้ต่อ
การจัดเจ้าหน้าที่  และคุณสมบัติ

  • ปรับจำนวนผู้บริการตามจำนวนการเข้าใช้ของผู้ใช้  ซึ่งไม่สามารถกำหนดเป็นตัวเลขที่แน่นอนได้
  • มีทักษะการสื่อสาร  การประสานงาน  การต่อรอง  ยืดหยุ่น  เพราะจะได้พบปะกับผู้ใช้ทั้งผู้สอนและนักศึกษาอยู่เป็นประจำ
  • มีความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายลิขสิทธิ์
Reserve Card
- ใช้บัตรสีแตกต่างกัน  สำหรับระยะเวลาในการยืมที่ต่างกัน
- นำบัตรสอดไว้ในหนังสือที่ให้ยืมแก่ผู้ใช้
Confidentiality (ความลับ) And  Reserves

  • ไม่เปิดเผยชื่อผู้ยืม  เช่นเดียวกับการยืมในแบบปกติ
  • จะต้องไม่แจ้งชื่อผู้ยืมแก่ผู้สอน
  • ผู้สอนอาจใช้วิธีการลงชื่อขอยืมไว้
การจัดเก็บ  ขึ้นอยู่กับบรรณารักษ์ว่าจะจัดเก็บในรูปแบบไหน

  •  แบบชั้นปิด
  • บริเวณให้บริการยืมคืน  เพื่อให้สามารถเข้าค้นหาให้ผู้ใช้ได้สะดวก
  • ใกล้บริการยืมคืน
  • ห้องแยกเฉพาะ   (ในห้องสมุดใหญ่ๆมักจะมีห้องหนังสือสำรอง)
การจัดบริเวณบริการ

  • ควรอยู่ในบริเวณที่ใกล้กับเคาเตอร์จ่ายรับ
  • ต้องสามารถมองเห็นได้ง่าย
  • บริการแบบชั้นปิด
  • ควรมีเครื่องถ่ายเอกสารในบริเวณที่ใกล้เคียง
คู่มือการใช้  และการแนะนำ
         ห้องสมุดมีบริการอะไรต้องแจ้งให้ผู้ใช้ทราบ  ต้องมีการประชาสัมพันธ์อยู่เสมอ  ที่สำคัญต้องมีการแจ้ง Copy right ให้ผู้ใช้ทราบ  และต้องมีอยู่ตลอดเวลาของบริการยืมคืน  ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก
แนวโน้มการบริการในอนาคต

  • มีเอกสารดิจิทัลให้สามารถถ่ายโอน  และมีการแสดงรายการบนOPAC  หรือจัดทำรายการในฉบับพิมพ์
  • สามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลาและทุกสถานที่
  • มีการป้องกันสิทธิ  โดยการมี password protected ใช้
  • คณาจารย์สามารถเสนอเอกสารบนเว็บเพจของตนเองได้

  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น